เคล็ดลับการทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า

หลายคนละเลยการทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะกลัวไฟดูดบ้างหรือคิดไม่ถึงว่ามีสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็นแอบซ่อนอยู่ และถ้าหากไม่ทำความสะอาดบ่อย ๆ บวกกับไม่รู้จักวิธีการทำความสะอาดที่ถูกต้องก็จะทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และเครื่องใช้ไฟฟ้าก็อาจชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะกับห้องครัวที่มักจะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นอยู่หลายชนิด ฉะนั้นอย่ารอช้าที่จะเริ่มลงมือทำความสะอาด ด้วยเคล็ดลับการทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่ภายในห้องครัวเหล่านี้ ลองไปทำตามพร้อมกันเลยนะคะ

1. เตาอบสะอาดด้วยเบกกิ้งโซดา

ถ้าเตาอบของคุณไม่มีระบบทำความสะอาดตัวเอง วิธีการทำความสะอาดก็ไม่ยากค่ะ ใช้เบกกิ้งโซดาและน้ำแร่ธรรมชาติผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นนำไปป้ายด้านข้างและส่วนฐานของเตาอบ หรืออาจจะใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำส้มสายชูก็มีคุณสมบัติเช็ดล้างเตาอบให้สะอาดได้เหมือนกัน จากนั้นก็ทิ้งไว้ 30 นาที ให้ฉีดน้ำยาที่เราผสมจากเบกกิ้งโซดา และเช็ดอีกรอบ ก่อนนอนก็ฉีดน้ำยาทิ้งไว้ข้ามคืน และจัดการเช็ดให้สะอาดในเช้าวันรุ่งขึ้น เพียงเท่านี้เตาอบของคุณก็จะสะอาดไร้กลิ่นแล้วล่ะค่ะ

2. กำจัดกลิ่นเหม็นในตู้เย็น

หลายบ้านต้องประสบปัญหาตู้เย็นมีกลิ่นอย่างแน่นอน ความเชื่อเดิม ๆ ที่ว่าถ่านช่วยดูดกลิ่นในตู้เย็นได้นั้นอาจจะช่วยได้แต่ไม่ทั้งหมด ถ้าหากคุณไม่เริ่มจากการเคลียร์ของทำความสะอาดตู้เย็นออกก่อน กลิ่นไม่พึงประสงค์จะหายไปได้อย่างไร เริ่มทำความสะอาดด้วยการเคลียร์ของทุกอย่างออกมาจากตู้เย็นให้หมด เชื่อว่าหลายคนต้องเจอของบางอย่างที่หมดอายุไปนานแล้วแน่ ๆ เลยล่ะ จากนั้นใช้ผ้าเปียกหมาด ๆ ชุบเบกกิ้งโซดาและเช็ดถูส่วนต่าง ๆ ในตู้เย็น จะช่วยทำให้กลิ่นหายไปแถมคราบสกปรกก็หลุดออกไปอย่างง่ายดายอีกด้วย

3. ดูแลไมโครเวฟให้กลับมาน่าใช้อีกครั้ง

เมื่อใช้ไมโครเวฟหลาย ๆ ครั้ง ปัญหาที่ตามมาคือกลิ่นคาวของอาหารหลาย ๆ ชนิดรวมกัน วิธีแก้ไขคือ นำน้ำมะนาวใส่แก้วแล้วเอาไปวางไว้ในไมโครเวฟ กดปุ่มให้ไมโครเวฟทำงานเหมือนตอนอุ่นอาหาร กรดจากน้ำมะนาวจะช่วยทำให้กลิ่นคาวหายไป ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยกำจัดคราบสกปรกที่เกิดจากอาหารอีกด้วย เสร็จแล้วก็เช็ดเก็บความเรียบร้อยทั้งในและนอกตัวไมโครเวฟ ให้กลับมาดูสะอาดน่าใช้อีกครั้งได้เลย


4. เครื่องปั่นสะอาดน่าใช้

การทำความสะอาดเหยือกแก้วบนเครื่องปั่นนั้นทำได้ไม่ยาก แค่ล้างปกติก็สะอาดเหมือนเดิมแล้ว แต่ที่จะพูดถึงต่อไปนี้คือการล้างฐานเครื่องปั่น ซึ่งอาจจะทำมาจากพลาสติก หรือ สเตนเลส ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้เหมือนกัน คือ นำผ้าสะอาดไปชุบน้ำส้มสายชูชาวแล้วเช็ดให้ทั่วฐาน และเพื่อความสะอาดมากยิ่งขึ้น ให้นำแปรงสีฟันที่ไม่ใช้แล้วมาขัด ๆ ถู ๆ เพื่อนำคราบสกปรกออกไป สำหรับส่วนใต้ฐานเครื่องปั่นใช้ผ้าชุบน้ำร้อนมาเช็ดให้สะอาดใสกิ๊ง วิธีนี้ง่ายแสนง่ายแถมยังทำให้ดูสะอาดเหมือนใหม่อีกครั้งด้วยค่ะ

 

5. ที่เปิดกระป๋องไฟฟ้าไม่เกรอะกรังอีกต่อไป

สมัยนี้มีที่เปิดกระป๋องแบบไฟฟ้าให้เลือกใช้ ซึ่งวิธีการทำความสะอาดก็ไม่ค่อยต่างจากที่เปิดกระป๋องทั่วไปมากนัก เพราะเมื่อใช้ที่เปิดกระป๋องแต่ละครั้ง คราบอาหารในกระป๋องจะเลอะติดบนอุปกรณ์อย่างเลี่ยงไม่ได้ ลองใช้แปรงสีฟันหมาด ๆ ชุบเบกกิ้งโซดาและขัดไปตรงที่มีคราบสกปรก เมื่อขัดเสร็จก็เช็ดด้วยผ้าแห้งหรือผ้าหมาด ๆ เน้นขัดตรงใบมีดเป็นพิเศษเพื่อรักษาความคมของใบมีดให้คงอยู่ไปนาน ๆ

เคล็ดลับทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว

6. เครื่องซักผ้าสะอาดใสปิ๊ง

เชื่อว่าหลายบ้านไม่ค่อยคำนึงถึงการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ทั้ง ๆ ที่ควรทำและวิธีการก็ง่ายนิดเดียว แค่รินน้ำส้มสายชูใส่ 1 ถ้วย ใส่ลงไปในส่วนของถังน้ำ หรือ ส่วนที่ใส่ผงซักฟอก และตั้งค่าอุณหภูมิน้ำให้ร้อนที่สุด จากนั้นกดให้เครื่องซักผ้าทำงาน หลังจากนั้นทำความสะอาดถาดใส่ผงซักฟอกด้วยน้ำและสบู่ธรรมดา เพื่อขจัดคราบผงซักฟอกที่อาจจะติดตามซอกให้สะอาด ตัวเครื่องด้านนอกเช็ดด้วยผ้าสะอาด หรือผ้าชุบน้ำสบู่ ทั้งตัวเครื่องและฝาเครื่อง จากนั้นปล่อยให้เครื่องแห้งและอย่าลืมเปิดฝาตัวเครื่องทิ้งไว้จะช่วยให้เครื่องแห้งไวขึ้นนะคะ

7. เช็ดล้างเครื่องปิ้งขนมปังทำได้ง่าย ๆ

เมื่อปิ้งขนมปังทีไร เศษขนมปังเล็ก ๆ มักจะตกลงไปในร่อง ยิ่งเยอะยิ่งเกาะกลุ่มกันไม่น่าดู ด้วยความที่เศษขนมปังตกลงไปในร่อง หากจะใช้มือล้วงเข้าไปทำความสะอาดก็ยาก งั้นมาดูวิธีทำความสะอาดง่าย ๆ กันเถอะค่ะ ก่อนอื่นคว่ำเครื่องปิ้งขนมปังลงและเขย่าให้เศษขนมปังที่ตกลงไปออกมาให้หมดก่อน จากนั้นแกะส่วนล่างออกมาทำความสะอาดด้วยการล้างและเช็ดให้แห้ง ส่วนตัวเครื่องภายนอกใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูหรือจะพ่นสเปรย์ทำความสะอาดลงไปก่อนแล้วค่อยเช็ดก็ได้ แต่ต้องชัวร์นะคะว่าถอดปลั๊กออกก่อนเช็ด ไม่งั้นอาจจะโดนไฟดูดได้

เคล็ดลับทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว

8. ล้างเครื่องชงกาแฟแค่เรื่องกล้วย ๆ

หากใครชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ แน่นอนต้องมีเครื่องชงกาแฟไว้ติดบ้าน เพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับกาแฟแก้วโปรด แต่เอ๊ะ เมื่อใช้เสร็จแล้วจะมีวิธีการล้างยังไงให้สะอาดดีล่ะ งั้นมาดูกันค่ะ เริ่มจากนำน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำที่จะใช้ล้าง นำเครื่องชงกาแฟไปจุ่มในน้ำที่ผสมไว้สัก 2-3 ครั้ง จนคราบกาแฟออกหมด จากนั้นนำมาล้างด้วยสบู่ เป็นอันเสร็จสิ้นวิธีการล้างที่ง๊ายง่ายแล้วล่ะค่ะ


9. เครื่องอบผ้าปราศจากเชื้อโรค

หากบ้านไหนมีเครื่องอบผ้า อาจจะดูไม่ออกว่าสกปรกถึงเวลาทำความสะอาดแล้ว เพราะเครื่องอบผ้าอาจจะไม่ส่งกลิ่นเหม็นออกมาชัด ๆ แต่รู้หรือไม่ว่ามีเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็นนี่แหละเกาะอยู่เต็มไปหมด วิธีการทำความสะอาดคือ นำผ้าสะอาดไปชุบน้ำส้มสายชู และเช็ดให้สะอาดทั้งภายในและภายนอกของเครื่องอบผ้า เครื่องกรองด้านในสามารถถอดมาล้างคราบสกปรกที่สะสมอยู่ได้ หากปล่อยให้คราบสกปรกอุดตันสะสมอยู่จะทำให้เครื่องพังเร็วและยังทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพมากเท่าที่ควรด้วย ฉะนั้นจึงต้องหันมาดูแลทำความสะอาดเครื่องอบผ้ากันบ้างแล้วนะคะ

เคล็ดลับง่าย ๆ ที่คุณก็สามารถทำได้เองไม่ยากและใช้เวลาไม่เยอะ เมื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าสะอาดไร้เชื้อโรค ไร้กลิ่นเหม็นแล้ว ยิ่งส่งเสริมให้สุขภาพจิตดีและมั่นใจได้ว่าอาหารที่ทำจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นสะอาดปราศจากพาหะนำโรค ฉะนั้นอย่าละเลยในการทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้นะคะ แล้วคุณจะรู้สึกเหมือนได้เครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่มาใช้ในทุก ๆ วันเลยล่ะ

Cr : kapook.com

Visitors: 673,113